
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรได้ร่วมกันลดราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มลงทั่วประเทศอีกครั้ง โดยประกาศราคาแนะนำสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม ปรับราคาดังนี้
ภาคตะวันตก 94 บาท/กก.
ภาคตะวันออก 94 บาท/กก.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) 94-96 บาท/กก.
ภาคเหนือ 96 บาท/กก.
และภาคใต้ 97 บาท/กก.
หวังช่วยผลักดันเนื้อสุกรจำหน่ายปลีกราคาลดลง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดครองชีพแก่ผู้บริโภค โดยขณะนี้ห้างค้าปลีกได้ร่วมจำหน่ายเนื้อหมูราคาประหยัด อาทิ ห้างแม็คโคร จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาพิเศษ โดยสะโพกหมู กก.ละ 150 บาท
ทั้งนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนด้านค่าครองชีพของประชาชน จึงจับมือกันลดราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 บาท ต่อ กก.ปัจจุบันราคาเฉลี่ยลงมาอยู่ที่ 94-97 บาทต่อ กก. เพื่อให้ราคาหมูขายปลีกหน้าเขียงปรับตัวลงมาในระดับที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหาเนื้อหมูมาบริโภคได้อย่างทั่วถึง รวมถึงเป็นการกระตุ้นการบริโภคเนื้อสุกร และประคับประคองทุกคนให้ก้าวผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปด้วยกัน สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าใช้จ่าย นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวอีกว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต่างร่วมกันรักษาระดับราคาหมูหน้าฟาร์มและมีมติร่วมกันในการปรับลดราคามาอย่างต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าต้นทุนการเลี้ยงสุกรในไตรมาสที่ 1/2565 จะปรับขึ้นมาสูงถึง 94.69 บาทต่อ กก.จากการที่เกษตรกรต้องยกระดับเพิ่มระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) และต้องลงทุนกับสารเสริมต้านไวรัสเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ตัวสุกร ถึงแม้ระดับราคาจำหน่ายจะต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยงแล้วก็ตาม แต่เกษตรกรก็ยินดีที่จะร่วมฝ่าวิกฤติต่าง ๆ ไปพร้อมกับประชาชนในครั้งนี้